การลบรอยสักด้วย Pico Laser : ทางเลือกใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูง
รอยสักถือเป็นศิลปะบนเรือนร่างที่ได้รับความนิยมมาเป็นเวลานาน อย่างไรก็ตาม ความชื่นชอบรอยสักอาจเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา ซึ่งอาจทำให้บางคนต้องการลบรอยสักเพื่อเหตุผลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ หรือการแก้ไขความผิดพลาดในอดีต และเทคโนโลยีที่ของการเลเซอร์ก็มีการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพในการลบรอยสักก็มีให้เลือกมากมาย แต่ที่นิยมกันเป็นอย่างและมีประสิทธิภาพมากที่สุดก็คือ Pico Laser หรือที่มีชื่อเต็มว่า Picosecond Laser
Picosecond Laser คืออะไร?
Pico Laser เป็นเทคโนโลยีเลเซอร์ที่ใช้ความเร็วของแสงในการแตกเม็ดสีในชั้นผิวหนังของรอยสัก โดยปล่อยพลังงานในระยะเวลาสั้นมาก (หนึ่งในล้านล้านของวินาที) ความเร็วนี้ทำให้เม็ดสีของหมึกรอยสักแตกตัวออกเป็นอนุภาคเล็กๆ ซึ่งทำให้สามารถกำจัดหมึกของรอยสักออกจากร่างกายได้ง่ายขึ้น
ข้อดีของการ ลบรอยสักด้วย Pico Laser
- มีประสิทธิภาพสูง : การใช้ Pico Laser หรือ Picosecond Laser สามารถลบรอยสักได้หลากหลายสีทั้งสีเข้มและสีอ่อน เพราะมีความยาวคลื่นตั้งแต่ 532 nm. สามารถดูดซับรอยสักสีแดง/เหลือง/ส้ม, 785 nm. สามารถดูดซับรอยสักสีเขียว/น้ำเงิน และความยาวคลื่น 1064 nm. ที่สามารถดูดซับรอยสักสีดำ, น้ำตาล,เขียว,น้ำเงินและม่วงได้ดี โดยเฉพาะสีเขียวและฟ้า ซึ่งมักจะลบได้ยากเมื่อใช้เลเซอร์ชนิดอื่น
- ใช้จำนวนครั้งในการรักษาน้อยกว่า : เนื่องจากพลังงานเลเซอร์ที่ปล่อยออกมานั้นสามารถเจาะลึกและแตกเม็ดสีได้ดีกว่า ทำให้การรักษาในแต่ละครั้งมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยทั่วไปใช้จำนวนครั้งในการรักษาน้อยกว่าเลเซอร์แบบดั้งเดิมชนิดอื่นๆ
- ลดความเสี่ยงต่อการเกิดแผลเป็น : Pico Laser มีความแม่นยำสูง ทำให้ลดความเสียหายต่อเนื้อเยื่อรอบๆ รอยสัก ส่งผลให้ลดความเสี่ยงในการเกิดแผลเป็นหรือรอยดำหลังการรักษา
กระบวนการลบรอยสักด้วย Picosecond Laser
เริ่มต้นด้วยการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินสภาพผิวและรอยสักของคุณ จากนั้นแพทย์จะทำการเลเซอร์ลงไปยังรอยสักเพื่อลดเม็ดสีหมึก การรักษาอาจต้องใช้เวลา 5-8 ครั้ง ขึ้นอยู่กับขนาดและสีของรอยสัก รวมถึงระยะเวลาที่มีรอยสักนั้นอยู่บนผิวหนัง ระหว่างการรักษาผู้ป่วยอาจรู้สึกเจ็บเล็กน้อย คล้ายการดีดหนังยางลงบนผิวหนัง แต่อาการเจ็บนี้สามารถบรรเทาได้ด้วยการใช้ยาชาเฉพาะที่ หลังการรักษา ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดและทาครีมกันแดด เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวระคายเคืองและเกิดรอยดำ
การดูแลหลังการ ลบรอยสัก
หลังจากการทำ Pico Laser ผิวหนังจะต้องการการดูแลเป็นพิเศษเพื่อป้องกันการติดเชื้อหรือการเกิดแผลเป็น คำแนะนำที่สำคัญคือ
– หลีกเลี่ยงการสัมผัสน้ำหรือน้ำที่มีสารเคมีแรง
– หลีกเลี่ยงการถูกแสงแดดโดยตรง
– ทาครีมบำรุงที่แพทย์แนะนำอย่างสม่ำเสมอ
– หลีกเลี่ยงการเกา หรือแกะผิวบริเวณที่ทำการรักษา
ข้อควรระวังและผลข้างเคียง
แม้ว่าการ Pico Laser จะมีความปลอดภัยสูง แต่ก็มีผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น รอยแดง ผิวแห้ง หรือผิวลอกในช่วงแรกๆ แต่ส่วนใหญ่ผลข้างเคียงเหล่านี้จะหายไปภายใน 1-2 สัปดาห์ นอกจากนี้ การลบรอยสักอาจไม่สามารถทำได้อย่างสมบูรณ์ในบางกรณี โดยเฉพาะรอยสักที่มีอายุหลายปีหรือมีสีที่ซับซ้อนมาก
ปัญหาของการลบรอยสักจากเครื่องเลเซอร์ที่ไม่ได้ประสิทธิภาพ
การลบรอยสักด้วยเลเซอร์เป็นเทคนิคที่ได้รับความนิยม แต่ไม่ใช่ทุกเครื่องเลเซอร์ที่จะให้ผลลัพธ์ที่ดีและมีประสิทธิภาพ การลบรอยสักที่ไม่ได้ผลตามที่คาดหวังอาจเกิดจากหลายปัจจัย ซึ่งปัญหาสำคัญเหล่านี้มักเกี่ยวข้องกับเครื่องเลเซอร์ที่ไม่มีคุณภาพ หรือวิธีการใช้งานที่ไม่ถูกต้อง มาดูกันว่าปัญหาเหล่านี้มีอะไรบ้าง
เครื่องเลเซอร์ที่ใช้เทคโนโลยีเก่า : หนึ่งในปัญหาหลักของการลบรอยสักที่ไม่ได้ผลเกิดจากการใช้เครื่องเลเซอร์ที่ใช้เทคโนโลยีเก่าหรือไม่มีประสิทธิภาพ จึงไม่สามารถทำลายเม็ดสีหมึกได้อย่างละเอียดเพียงพอ โดยเฉพาะสีที่ซับซ้อน เช่น สีเขียว ฟ้าและเหลือง เมื่อเทียบกับ Pico Laser ที่สามารถทำลายเม็ดสีได้ละเอียดกว่า เลเซอร์รุ่นเก่าอาจต้องใช้การรักษาหลายครั้งมากกว่า และผลลัพธ์ที่ได้ก็อาจไม่สมบูรณ์แบบ
- เลเซอร์ที่ไม่เหมาะกับสีรอยสัก : เลเซอร์แต่ละประเภทมีความสามารถที่แตกต่างกันในการทำลายเม็ดสีตามเฉดสีของรอยสัก หากเลือกใช้เลเซอร์ที่ไม่เหมาะสมกับสีของรอยสัก การรักษาอาจไม่ได้ผล ยกตัวอย่างเช่น เลเซอร์บางชนิดมีประสิทธิภาพดีสำหรับสีดำหรือสีเข้ม แต่ไม่สามารถทำลายสีอ่อนหรือสีฟ้า-เขียวได้ดี การเลือกใช้เครื่องเลเซอร์ที่ไม่สามารถตอบโจทย์การลบรอยสักสีที่ซับซ้อนได้ ส่งผลให้การลบรอยสักไม่สม่ำเสมอและต้องใช้เวลามากขึ้นในการรักษา
- การตั้งค่าพลังงานที่ไม่เหมาะสม : การตั้งค่าพลังงานของเลเซอร์ที่ไม่ถูกต้องก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้การลบรอยสักไม่ได้ผล หากพลังงานต่ำเกินไป อาจไม่สามารถทำลายเม็ดสีหมึกได้เพียงพอ แต่หากพลังงานสูงเกินไป ก็อาจทำให้เกิดความเสียหายต่อผิวหนัง ส่งผลให้เกิดแผลเป็นหรือรอยดำหลังการรักษา ความสำคัญอยู่ที่การตั้งค่าที่เหมาะสมเพื่อให้เลเซอร์สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ทำร้ายผิวหนังมากเกินไป
- เลเซอร์ที่ไม่ได้มาตรฐานหรือไม่ได้รับการดูแลรักษา : เครื่องเลเซอร์ที่ไม่ได้มาตรฐานหรือไม่ได้รับการบำรุงรักษาอย่างเหมาะสมก็อาจทำให้การลบรอยสักไม่มีประสิทธิภาพ การใช้เครื่องเลเซอร์ที่ไม่ได้รับการดูแล อาจทำให้พลังงานที่ปล่อยออกมาไม่สม่ำเสมอ ส่งผลให้การรักษาไม่สม่ำเสมอและผลลัพธ์ไม่ได้ตามที่คาดหวัง นอกจากนี้ หากเครื่องมีปัญหาเรื่องความแม่นยำ อาจทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการเกิดแผลเป็นหรือทำให้ผิวเสียหายได้
- ปัญหาในการฟื้นฟูผิวหลังการรักษา : แม้การรักษาด้วยเลเซอร์จะได้ผลในระดับหนึ่ง แต่อีกปัจจัยสำคัญคือการดูแลหลังการรักษา หากผิวหนังไม่ได้รับการฟื้นฟูหรือป้องกันแสงแดดอย่างเหมาะสม อาจเกิดรอยดำ รอยแดง หรือการอักเสบที่ทำให้ผลลัพธ์ของการลบรอยสักไม่เป็นที่พอใจ การไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์หลังการรักษาอาจทำให้เกิดแผลเป็นถาวรได้
- การใช้โดยผู้ที่ไม่เชี่ยวชาญ : การใช้งานเลเซอร์ลบรอยสักควรทำโดยผู้เชี่ยวชาญหรือแพทย์ผิวหนังที่มีประสบการณ์ หากการลบรอยสักถูกทำโดยผู้ที่ขาดความเชี่ยวชาญ อาจเกิดการตั้งค่าที่ผิดพลาด หรือการเลือกใช้เลเซอร์ที่ไม่เหมาะสมกับสภาพผิวและสีของรอยสัก ทำให้การรักษาไม่ได้ผลหรืออาจเกิดความเสียหายต่อผิวหนังได้
บทสรุป : Picosecond Laser เป็นวิธีการลบรอยสักที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัย ช่วยลดจำนวนครั้งในการรักษาและลดความเสี่ยงในการเกิดแผลเป็น แต่ก็ยังคงต้องได้รับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินความเหมาะสมของการรักษาสำหรับแต่ละบุคคล และที่ Bellalio Clinic เรามีผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังที่มีประสบการณ์ในการลบรอยสัก พร้อมเทคโนโลยีเลเซอร์ที่ทันสมัยอย่าง Picosecond Laser ไว้คอยบริการคุณลูกค้าทุกคนเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด